Skip to main content

คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ลงนามความร่วมมือด้านวิชาการและการวิจัยกับ สกว. หวังพัฒนากำลังคนสายอาชีพ มุ่งเป้าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพของชุมชนบนฐานทรัพยากรทางการท่องเที่ยว และต้องตอบโจทย์ท้องถิ่นด้วย

13 ต.ค. 2558 นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และ ศ.นพ.สุทธิพันธ์  จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ร่วมกันลงนามความร่วมมือด้านวิชาการและการวิจัย ณ  ห้องประชุม สอศ. เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนสายอาชีพด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวและบริการให้สามารถรองรับและตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งจะเป็นการสร้างและพัฒนากำลังคนและนักวิจัยมืออาชีพสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เป็นอย่างดียิ่ง

ผู้อำนวยการ สกว. กล่าวว่า การสร้างความร่วมมือระหว่าง สอศ. ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการมีอำนาจหน้าที่ในการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาและฝึกอบรมวิชาชีพเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในด้านวิชาชีพระดับฝีมือ ระดับเทคนิค และระดับเทคโนโลยี ตามความต้องการของตลาดแรงงาน ร่วมกับ สกว. ในการสร้างและพัฒนากำลังคนและนักวิจัยมืออาชีพสู่ระบบเศรษฐกิจภายใต้กรอบระยะเวลา 3 ปี โดยจะส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัด สอศ. ได้ทำการศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนางานด้านวิชาการ ซึ่งจะนำไปพัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการสนับสนุนด้านการพัฒนาระบบการจัดการงานวิจัย ในการสร้างและพัฒนานักวิจัยในสายวิชาชีพ พัฒนากำลังคนสายอาชีพให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ รวมทั้งพัฒนาศักยภาพของชุมชนบนฐานทรัพยากรทางการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ สกว. มีความยินดีสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าว  อีกทั้งสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการงานวิจัยระหว่างบุคลากรอาชีวศึกษาและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาอื่นๆ เพื่อร่วมกันพัฒนากำลังคนสายอาชีพให้มีขีดความสามารถและสมรรถนะสูงยิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาศักยภาพของชุมชนบนฐานทรัพยากรทางการท่องเที่ยว ตลอดจนสนับสนุนผู้ทรงคุณวุฒิ วิทยากร และผู้ประสานงานในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาข้อเสนอโครงการวิจัย การติดตามความก้าวหน้างานวิจัย การเขียนรายงานวิจัย การจัดการงานวิจัย และกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยของ สกว.ที่ไปช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ไปพัฒนาเป็นหลักสูตรการเรียนการสอน

ขณะที่เลขาธิการ สอศ. ระบุว่า สอศ.จะส่งเสริมและสนับสนุน วางแผนในการกำหนดแผนงานการวิจัย ประสานงานกับสถานศึกษาในสังกัดเพื่อรสนับสนุนงานวิจัยของ สกว. รวมถึงสนับสนุนให้สถานศึกษาและบุคลากรเสนอโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการวิจัยอาชีวศึกษา และกิจกรรมอื่นๆ ที่จะให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทั้งนี้สอศ.ได้รับการคาดหวังจากรัฐบาลเป็นอย่างมาก เพราะอาชีวศึกษาเป็นผู้ทรงคุณค่าของสังคม มีความสำคัญต่อการสร้างชาติในการผลิตคนที่มีฝีมือ จึงมอบภารกิจให้ สอศ.ดำเนินการโดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนค่านิยม ปรับภาพลักษณ์ให้ดีขึ้นและอยู่ในมาตรฐานสากล ลดปัญหาการทะเลาะวิวาท พัฒนาสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมอาชีวะตั้งแต่ระดับห้องเรียนจนถึงระดับนานาชาติ โดยส่งเสริมให้นักศึกษาใช้กระบวนการวิจัยเป็นเครื่องมือในการพัฒนาและคิดอย่างเป็นระบบ

“ประเด็นหลักที่อยากให้ สกว.ช่วยในขณะนี้คือ การท่องเที่ยว เพราะมีตลาดชัดเจน นักศึกษาให้ความสนใจลงทะเบียนเรียนสาขาการท่องเที่ยวและโรงแรมเพิ่มขึ้นมาก จบไปก็มีงานทำ ซึ่ง สอศ. มีวิทยาลัยที่เปิดสอนด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม รวมถึงมัคคุเทศก์รวม 43 แห่ง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาคเอกชนที่ต้องการคนปีละ 200,000 คน แต่เราผลิตได้เพียง 4,000 คน มติ ครม.ก็สั่งการให้ช่วยกันแก้ปัญหาการขาดแคลนมัคคุเทศก์ นอกจากนี้หลักสูตรการเรียนการสอนจะต้องตอบโจทย์ของท้องถิ่นด้วย จึงต้องมีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระดับท้องถิ่น ซึ่งจำแนกตามประเภทของการท่องเที่ยว” เลขาธิการ สอศ.กล่าวสรุป